รูขุมขนอักเสบ คือ การติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่รูขุมขน จนทำให้เกิดตุ่มแดงเม็ดเล็กๆ หรือมีสิวหัวขาวเกิดขึ้นในบริเวณที่อักเสบ สามารถพบได้ทุกส่วนของร่างกายที่มีขน โดยเฉพาะในส่วนของหนังศีรษะ หน้าอก หลัง แขน ขาและก้น ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถหายไปได้เองใน 2 สัปดาห์ แต่หากพบว่าไม่ดีขึ้นก็จำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยรักษาการติดเชื้อดังกล่าว
ประเภทของรูขุมขนอักเสบ
รูขุมขนอักเสบแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
1.รูขุมขนอักเสบระดับตื้น เป็นการอักเสบในรูขุมขนที่เกิดขึ้นบนผิวหนังเฉพาะบางส่วน ซึ่งโดยส่วนมากจะอยู่บริเวณชั้นผิวหนังที่มีอาการไม่ลึกมาก คือ
รูขุมขนอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เป็นการอักเสบของรูขุมขนที่มักจะพบได้บ่อย เป็นแล้วจะทำให้เกิดอาการคันและมีลักษะของตุ่มหนองสีขาวผุดขึ้นบริเวณผิวหนังร่วมด้วย
รูขุมขนอักเสบจากเชื้อรา มีลักษณะเป็นตุ่มหนองสีแดงซึ่งมักจะขึ้นบริเวณหลังหรือหน้าอกแบบเรื้อรัง บางครั้งอาจจะขึ้นตามใบหน้า ลำคอ ไหล่และต้นแขนได้ด้วยเช่นกัน
รูขุมขนอักเสบจากใบมีดโกน การโกนหนวดหรือโกนขนแบบใกล้ชิดกับผิวหนังมากจนเกินไปก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดขนคุดและนำมาซึ่งการอักเสบได้ และหากขนคุดอักเสบก็อาจส่งผลทำให้เป็นแผลนูนสีเข้มในภายหลังได้ด้วย
รูขุมขนอักเสบจากการแช่น้ำร้อน ลักษณะอาการจะเกิดผื่นแดงหรือตุ่มกลมๆ โดยมีอาการคันร่วมด้วยในช่วงระยะ 1-2 วัน
2.รูขุมขนอักเสบระดับลึก เป็นการอักเสบของรูขุมขนในชั้นผิวหนังที่ลึกลงไปจากประเภทแรก มักมีอาการรุนแรงกว่า ได้แก่
รูขุมขนอักเสบชั้นลึกในบริเวณหนวดเครา เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นที่บริเวณหนวดและเคราในผู้ชาย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงมาจากการโกนหนวดและเครานั่นเอง
รูขุมขนอักเสบที่เกิดจากการใช้ยารักษาสิว หรือการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยรักษาสิวติดต่อกันเป็นเวลานาน
รูขุมขนอักเสบที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยติดเชื้อ HIV โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อดังกล่าว รูขุมขนอักเสบจะมาในลักษณะอาการที่เป็นตุ่มแดงคันหรือเป็นสิวที่เกิดขึ้นบริเวณใบหน้า รวมถึงส่วนบนของร่างกาย
ฝีและฝีฝักบัว เป็นลักษณะอาการที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัสของรูขุมขนซึ่งอยู่ในระดับที่ลึกลงไป โดยการติดเชื้อดังกล่าวนี้จะทำให้เกิดเป็นฝีหัวสีชมพูหรือสีแดงขึ้นได้ ทำให้รู้สึกถึงความเจ็บปวด และอาจมีฝีเกิดขึ้นรวมกันเป็นกลุ่มที่เรียกกันว่าฝีฝักบัว
อาการของรูขุมขนอักเสบ
อาการรูขุมขนอักเสบที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยคือ จะมีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงเล็กๆ ขึ้นอยู่ที่บริเวณรูขุมขน อาจเป็นสิวหัวขาวตามบริเวณผิวหนัง ทั้งยังมีเส้นขนอยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ ยังอาจพบว่ามีหนองอยู่ภายใน ซึ่งบางครั้งหนองอาจเกิดขึ้นในตำแหน่งใกล้ๆ แบบรวมเป็นกลุ่ม โดยตุ่มดังกล่าวยังอาจส่งผลทำให้เกิดอาการคัน ปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย อีกทั้งเมื่อกดลงไปจะรู้สึกเจ็บ และอาจมีตุ่มบวมใหญ่ในบริเวณดังกล่าวขึ้นได้ด้วยเช่นกัน
สาเหตุของรูขุมขนอักเสบ
รูขุมขนอักเสบมักเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส หรือเชื้อรา ซึ่งเชื้อดังกล่าวสามารถส่งผ่านกันได้โดยการสัมผัสผิวหนังหรือการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกันกับผู้ที่ติดเชื้ออยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านอื่นๆ ที่สามารถนำมาสู่การติดเชื้อจนเกิดรูขุมขนอักเสบขึ้นได้อีกด้วย โดยปัจจัยเหล่านั้นมีดังนี้ค่ะ
ผิวหนังอักเสบหรือเป็นสิว
- ปัญหาสุขภาพ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือป่วยด้วยโรคต่างๆ อาทิ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง ผู้ติดเชื้อ HIV หรือโรคเอดส์ เป็นต้น
- ผู้ที่กำลังใช้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ครีมสเตียรอยด์ หรือการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยรักษาสิวระยะยาว
- ผู้ชายที่มีเส้นขนหรือเส้นผมหยิก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดขนคุด จนนำมาสู่ปัญหาของรูขุมขนอักเสบ เพราะจะต้องโกนขนหรือหนวดมากกว่าคนกลุ่มอื่นๆ
- การทำกิจกรรมในสถานที่ที่มีแหล่งสะสมเชื้อโรค เช่น การว่ายน้ำในสระ การใช้บ่อน้ำร้อนหรือสปาที่ไม่มีความสะอาด
- ผิวหนังเกิดความเสียหายหรือเป็นแผลจากการใช้ใบมีดโกน โดยเฉพาะในผู้ชายที่มักจะต้องโกนหนวดเคราเป็นประจำ
- การระคายเคืองในรูขุมขนหรือการอุดตันบนผิวหนัง โดยมีสาเหตุมาจากเหงื่อ เครื่องสำอาง และน้ำมันเครื่อง เป็นต้น
- การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือเนื้อผ้ามีความหยาบมากจนเกินไป จนอาจก่อให้เกิดการเสียดสีที่บริเวณผิวหนังและก่อให้เกิดความระคายเคืองรูขุมขน
วิธีการรักษารูขุมขนอักเสบ
โดยปกติแล้ว หากรูขุมขนอักเสบมีอาการไม่รุนแรงมากนักก็จะสามารถหายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยในระหว่างที่กำลังรอให้อาการดีขึ้น ผู้ป่วยควรดูแลตนเองเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดและเพื่อช่วยให้อาการดีขึ้นโดยเร็ว ทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อเกิดการแพร่กระจาย ซึ่งคุณสามารถปฏิบัติได้ดังนี้
1.ทาครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของไฮโดรคอร์ติโซนเพื่อช่วยบรรเทาอาการคัน
2.ใช้ผ้าชุบน้ำเกลืออุ่นๆ ประคบลงบนบริเวณที่มีอาการเป็นประจำทุกวันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้
3.หมั่นทำความสะอาดแผลเป็นประจำด้วยสบู่ที่มีส่วนผสมของสารต้านเชื้อแบคทีเรียวันละอย่างน้อย 2 ครั้ง จากนั้นให้เช็ดตามด้วยผ้าสะอาด เสร็จแล้วควรซักผ้าด้วยสบู่และน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรคไม่ให้เกิดการตกค้าง
4.ทาครีมหรือเจลลงบนผิวหนังที่เกิดปัญหารูขุมขนอักเสบ หรือล้างผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการดังกล่าว โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
5.หลีกเลี่ยงการโกนขนในบริเวณที่เกิดการอักเสบหรือควรพักผิวหนังเพื่อให้รูขุมขนฟื้นตัวจนหายดีก่อน และหากจำเป็นต้องโกน แนะนำควรเปลี่ยนใบมีดก่อนโกนทุกครั้ง
6.ควรทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และชุดเครื่องนอนด้วยน้ำร้อนเพื่อการฆ่าเชื้อโรคได้อย่างหมดสิ้น ทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำ และยังเป็นการช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นต่อไป
รูขุมขนอักเสบ เป็นอาการของปัญหาผิวหนังที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ จากการติดเชื้อ และการโกนหนวดเป็นประจำ ซึ่งอาการไม่ได้รุนแรงมากนัก สามารถหายเองได้ สำหรับใครที่มีปัญหาดังกล่าวสามารถรักษาป้องกันและดูแลผิวหนังตนเองได้จากคำแนะนำดังที่เรากล่าวไว้เบื้องต้น