ผู้หญิงกับการมีกลิ่นภายในช่องคลอดนับว่าเป็นเรื่องปกติอย่างมาก แต่จะเกิดความผิดปกติขึ้นก็ต่อเมื่อช่องคลอดส่งกลิ่นเหม็นมากขึ้น รวมทั้งมีกลิ่นคาวร่วมด้วย นอกจากนั้นยังมีสิ่งผิดปกติหรือสารคัดหลั่งที่ไหลออกมาจากช่องคลอดด้วย และสาวๆ หลายคนก็อยากรู้ว่าหากช่องคลอดมีกลิ่น กินยาอะไรดี วันนี้เรามีคำตอบมาฝากสาวๆ ทุกคนกันแล้วค่ะ

ช่องคลอดมีกลิ่น เกิดจากสาเหตุอะไร

ก่อนที่เราจะรู้ว่าช่องคลอดมีกลิ่น กินยาอะไรดี ก่อนอื่นเราควรไปดูสาเหตุกันก่อนว่ากลิ่นที่เกิดขึ้นภายในช่องคลอดผู้หญิงนั้น มีสาเหตุในการเกิดมาจากอะไรบ้าง? ซึ่งภาวะของช่องคลอดส่งกลิ่นเหม็น กลิ่นคาว หรือมีสารคัดหลั่งที่มีความผิดปกติไหลออกมานั้น เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน และสาเหตุที่เราจะกล่าวดังต่อไปนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุที่ทำให้เกิดช่องคลอดมีกลิ่นนั่นเอง

1.ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นได้ไม่ดีเพียงพอ

การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นได้ไม่ดีเพียงพอย่อมทำให้เกิดสิ่งสกปรกตกค้างและสะสมอยู่ภายในช่องคลอด จนก่อให้เกิดการหมักหมม และเกิดการติดเชื้อขึ้นมา ทำให้ภายในช่องคลอดเกิดการอักเสบและเกิดกลิ่นเหม็น รวมทั้งมีสารคัดหลั่งที่ผิดปกติไหลออกมานั่นเอง

2.เกิดการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่

แน่นอนว่าถ้าเกิดการสะสมหรือการหมักหมมบริเวณช่องคลอดเป็นเวลานานแล้ว จะก่อให้เกิดการติดเชื้อภายในช่องคลอด และทำให้ช่องคลอดมีการอักเสบเกิดขึ้น ซึ่งการติดเชื้อนั้นอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือการติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากโรคต่างๆ โดยการติดเชื้อเหล่านี้ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาหรือไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ก็จะส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาได้

3.โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ภาวะที่ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น สาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดนั้น เป็นสาเหตุของการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาทิเช่น การติดเชื้อ HIV โดยบางครั้งคนไข้จะเกิดหูดขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ, การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน, เกิดการอักเสบของเชื้อราภายในช่องคลอด, เกิดการอักเสบของมดลูกหรือช่องคลอดที่ได้รับการกระทบกระเทือนจนทำให้เกิดการติดเชื้อ เป็นต้น\

4.สาเหตุที่มาจากการเกิดโรคอื่นๆ

สาเหตุอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้ช่องคลอดมีกลิ่น เช่น โรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งในช่องคลอด เป็นต้น

ช่องคลอดมีกลิ่น กินยาอะไรดี

ช่องคลอดมีกลิ่น กินยาอะไรดี เป็นสุดยอดคำถามที่สาวๆ หลายคนอยากรู้คำตอบ และเราก็จะมาไขปัญหานี้ให้คุณได้ทราบ ซึ่งเราสามารถใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาอาการเบื้องต้นได้ดังต่อไปนี้

1.ยาเมโทรนิดาโซล

ยาชนิดนี้เป็นยาที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อ หรือเป็นยาฆ่าเชื้อที่มีขนาด 500 มิลลิกรัม วิธีใช้คือ รับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นเวลา 7 วัน

2.ยาคลีนดัยมาซิน

ยาในกลุ่มนี้จะมีทั้งยารับประทานและยาสอด ซึ่งถ้าหากเป็นยารับประทานจะเป็นรูปแบบของยาเม็ดที่มีขนาด 300 mg.วิธีใช้คือ รับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นเวลา 7 วัน

วิธีรักษาช่องคลอดมีกลิ่นจากทางการแพทย์

การรักษาช่องคลอดมีกลิ่นจากทางการแพทย์นั้น แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยก่อนการทำการรักษาทุกครั้ง ซึ่งมีวิธีการรักษาตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.หากเกิดจากการติดเชื้อของอุ้งเชิงกราน แพทย์จะทำการจ่ายยาปฏิชีวนะ เพื่อให้ตัวยาเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งยาปฏิชีวนะที่แพทย์จ่ายนั้นจะเป็นลักษณะของรูปแบบยาเม็ดรับประทาน

2.หากเกิดการติดเชื้อจากทริโคโนสิส ซึ่งเป็นเชื้อที่เกิดจากหนอนพยาธิ แพทย์จะทำการจ่ายยา albendazole หรือ ยามีเบนดาโซล ซึ่งยาทั้งสองตัวนี้เป็นยาที่ฆ่าเชื้อหนอนพยาธิได้เป็นอย่างดี

3.หากเกิดจากเชื้อราในช่องคลอด แพทย์จะทำการจ่ายยารับประทานในกลุ่มของยาอีโคนาโซล ไมโครนาโซล หรือจ่ายยาเหน็บที่บริเวณช่องคลอด ซึ่งเป็นตัวยาในกลุ่มดังกล่าว

4.หากเกิดจากโรคมะเร็งปากมดลูกหรือโรคมะเร็งช่องคลอด แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อนำชิ้นเนื้อหรือเนื้อร้ายไปตรวจ และทำการฉายรังสี หรือใช้เคมีบำบัดรักษาต่อไป

วิธีดูแลป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดช่องคลอดมีกลิ่น

หลังจากทราบกันแล้วว่าช่องคลอดมีกลิ่น กินยาอะไรดี จากนี้สาวๆ ก็ควรใส่ใจดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงตามมา โดยเราก็มีวิธีรับมือป้องกันการเกิดช่องคลอดมีกลิ่นมาฝากดังต่อไปนี้

1.ดูแลสุขภาพร่างกายจากภายนอก

ในส่วนของการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายก็จะเป็นการทำความสะอาดจุดสำคัญอย่างจุดซ่อนเร้น กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น เช่น ปลาร้า อาหารรสจัด และอาหารหมักดอง เป็นต้น นอกจากนี้ ควรหมั่นหาเวลาออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำร่วมด้วย

2.ดูแลสุขภาพร่างกายจากภายใน

ในทางด้านจิตใจนั้น ควรหมั่นทำจิตใจให้มีความแจ่มใสร่าเริง ไม่ให้ตัวเองตกอยู่ในภาวะของความเครียด เพราะจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรค และนำไปสู่ความผิดปกติของร่างกายในระบบต่างๆ ได้ เนื่องจากความเครียดจะทำให้ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลงจนทำให้ระบบภายในร่างกายเกิดการรวนนั่นเอง

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนก็คงได้คำตอบกันไปแล้ว กับคำถามที่ว่าช่องคลอดมีกลิ่น กินยาอะไรดี ซึ่งยาในที่นี้ก็คือ ยาที่ทางแพทย์เป็นผู้จ่ายให้ เพราะการรักษาโรคใดๆ ก็ตามที่เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากภายในผู้หญิงด้วยแล้ว ยิ่งควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้เป็นผู้ตรวจรักษาและเป็นผู้จ่ายยาให้ดีที่สุด ไม่ควรซื้อยากินเอง เพราะอาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ ที่สำคัญหากไม่ต้องการให้ช่องคลอดมีกลิ่น ก็ควรใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นเป็นอย่างดี เพียงเท่านี้ โอกาสที่จะเกิดกลิ่นขึ้นในช่องคลอดก็ลดน้อยลงแล้ว